ตลกร้าย..!! "หมอสุภัทร"
ตลกร้าย..!! "หมอสุภัทร" จะยกพวกทีม "แพทย์ชนบท" มาเหนื่อยวุ่นวาย.. ตรวจโควิด ในกรุงเทพฯ ทำไม ...? หา ATK มาช่วยตรวจ จนโดนสอบวินัย และมีมติ ให้ "ออกจากราชการ" มีผล สิ้นเดือน ก.ย.2568 นี้
ทำงานเป็นหมออยู่ในต่างจังหวัด...ก็ดีอยู่แล้ว อยู่เฉยๆ จะไปเดือดร้อน ไปทุกข์ร้อนกับคนกรุงเทพฯ เขาทำไม... พื้นที่ "จะนะ" สงขลาตอนนั้น ก็ไม่ใช่พื้นที่แพร่ระบาดสูง...
เอ้อออ..!! แล้ว "หมอสุภัทร ฮาสุวรรณกิจ" กับพวกแพทย์ชนบท เข้ากรุงเทพฯ มาทำไม..?
..........
- ในฐานะที่เราเป็น "นักข่าว ThaiPBS" ได้เกาะติดเรื่องโควิดและระบบการจัดการอย่างจริงจัง และลงพื้นที่ทำข่าวหลายพื้นที่เป็นจุดวิกฤต-จุดเสี่ยงการแพร่ระบาด
**** ตัดภาพฉับ..ชวนทุกคน ย้อนความทรงจำถึงปี 2564 ..หลายคนในกรุงเทพฯ อาจเคยเจอประสบการณ์ ทั้งทางตรง และ ทางอ้อมมาไม่มากก็น้อยในปีนั้น กับโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า (Delta) หรือ B.1.617.2 ที่คร่าชีวิตผู้คนในครอบครัวคนไทยไม่น้อย ****
- ช่วง เม.ย.64 - สิ่งที่เกิดขึ้น "กรุงเทพฯ" พบผู้ติดโควิด "สูงสุดเป็น อันดับ 1" สูงสุดในประเทศ / พบผู้เสียชีวิต และผู้มีอาการหนักเพิ่มขึ้น จากสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดได้ไว และทรุดไว
- การแพร่ระบาด ใน กทม. พบผู้ติดเชื้อเพิ่มใหม่ขณะนั้น เฉลี่ยวันละ เกือบ 1,000 คน ../ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ประกาศ เมื่อ 9 ก.ค.64 ล็อกดาวน์กรุงเทพฯ และปริมณฑล 6 จังหวัด
- ผู้ที่ตรวจพบ "โควิด" สถานที่กักตัว - ส่งตัว รองรับการดูแลในกรุงเทพฯ มีไม่พอ สะท้อนระบบสาธารณะสุขเอาไม่อยู่ / โรงพยาบาลสนาม ยังแทบไม่มี /ศูนย์กักตัวชุมชน ยังไม่เกิด
- สถานการณ์ซ้ำเป็นวิกฤตคนกรุงฯ ปัญหาอุปกรณ์ ชุดตรวจโควิดแบบรู้ผลด่วนใน 30 นาที ขาดแคลน / ราคา ATK ที่ ปชช. ไปหาซื้อเองพุ่งอีก 2-3 เท่า / ส่วนการตรวจ แบบ RT-PCR ( รู้ผล 24 ชม.) ที่ทำได้เฉพาะใน รพ. เกิดปัญหาผู้ป่วยล้นคิว และ วิกฤตเตียงโควิดขาดแคลน
- ข้อมูลที่บอกไปข้างบน... เป็นภาพชัดของ สถานการณ์เปราะบาง ทางระบบสาธารณสุขในกรุงเทพฯ ที่รับมือไม่ไหว ท่ามกลางความเสี่ยงการแพร่ระบาดที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เพราะระบบสาธารณะ ยังแยก "ผู้ติดเชื้อ" ออกจาก "ผู้ไม่ติดเชื้อ" และ "สังคม"ไม่ได้มากพอต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น / บุคคลากรทางการแพทย์ ใน กทม. ที่มี เจอสภาวะ "ทำงาน" เกินกำลังไปมากโข
*****************
@ เมื่อประเมินความเสี่ยงว่า "เมืองหลวง" รับมือไม่ไหว
- จึงเกิดความพลังอาสาทีม "ชมรมแพทย์ชนบท" ออกโรง ระดมกันมี นพ. สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ Supat Hasuwannakit ประธานชมรมแพทย์ชนบท ภายใต้ปฎิบัติการ #แพทย์ชนบทบุกกรุง
- เราลงพื้นที่เกาะติดทำข่าวโควิดอยู่ก่อนหน้านั้นในหลายพื้นที่มาก่อนแล้ว.. ดังนั้น การปรากฎตัวของ "ทีมแพทย์ชนบท" ในกรุงเทพฯ จึงยิ่งสะท้อนถึงแนวโน้มการแพร่ระบาด ที่มาพร้อมกับพลังแห่ง "ความหวัง" และ "ทางออก" ที่สังคมจะฝ่าวิกฤตไปด้วยกัน
- การทำงานในสภาพ "ลุยเชิงรุก"ต่อเนื่อง ของทีมแพทย์ชนบท ในชุด "นักรบสีขาว"PPE ระดมจัดหาชุด ATK มาช่วยตรวจ คลุกคลีกับการ "สวอป" ประชาชนคนแล้วคนเล่านับร้อยนับพันคน เช้ายันมืด ในทุกๆ วัน..
..พวกเขา เน้นเลือกเข้าจุดที่เข้าถึง ในพื้นที่ "เสี่ยงสุดๆ" และมีแนวโน้มที่จะเกิดการระบาดหนัก โดยเฉพาะตามชุมชนแออัด และพื้นที่ สาธารณะในกรุงเทพฯ ด้วยความมุ่งมั่น และ ลุยเกินร้อย
............
- การลงพื้นที่ของทีมแพทย์ชนบท ภายใต้ปฎิบัติการ #แพทย์ชนบทบุกกรุง เกิดขึ้นทั้งหมด 3 รอบ .. แต่ละครั้ง..ไม่ได้โรยด้วยทุ่งลาเวนเดอร์
1. รอบแรก.."ชมรมแพทย์ชนบท" ลงพื้นที่ 14-16 ก.ค.2564 ตรวจทั้งสิ้น 19,871 ราย พบผู้ติดเชื้อ 1,777 ราย (8.94%) เป็นจำนวนที่สูงอย่างน่าตกใจ
2. รอบสอง.. 21-23 ก.ค.2564 ตรวจทั้งสิ้น 51,389 คน พบผู้ติดเชื้อ 6,863 คน (13.35%) ภาพรวมเป็นอัตราการติดเชื้อโควิดในเกณฑ์ที่สูงมาก สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานคร
ทั้งสองครั้ง..สะท้อนถึงจำนวน "ผู้ติดเชื้อ" ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ
แต่..ปรากฎกว่า.. "หมอสุภัทร" ณ ขณะนั้น ประกาศ กับเรา ( ThaiPBS) ระหว่างลงพื้นที่ไปทำข่าวเกาะติดว่า ทีมแพทย์ชนบท ..จะไม่กลับมา กทม.อีกแล้ว.. เพราะขณะนั้น ระบบต่างๆ ของรัฐ ยังไม่มาร่วมกันเลยว่า จะดูแล-รับตัว-ส่งต่อ..แยกกลุ่มผู้ติดเชื้อในชุมชนแออัดกันยังไง ปล่อยเครือข่าย-ภาคประชาสังคม เป็นแกนหลักจัดการกันเอง
ซึ่งทั้งสองครั้ง ตรวจหาเชื้อได้กว่า 51,000 ราย พบผู้ติดเชื้อกว่า 7,000 ราย
...แต่สุดท้าย... เพราะ "หัวใจหมอ"นั่นแหละ... หมอสุภัทร .. ยืนยัน... "จะกลับมาอีก" เป็นครั้งที่ 3 แน่นนอน
3. รอบสาม.. 4-10 ส.ค.2564 เป็นรอบที่กลับมาลุยยาวตลอดสัปดาห์ และระดมใหญ่กว่าเดิม จากการระบาดที่เพิ่มขึ้น / ทีมจึงกระจายลุยตรวจ ATK ครอบคลุม ทั้ง 50 เขต ของ กทม. มีบุคลากรอาสาจากต่างจังหวัดร่วมในนาม "ชมรมแพทย์ชนบท" กว่า 38 ทีม (เฉลี่ยทีมละ 8-10 คน) / ตะลุยเชิงรุกแบบ เต็มพิกัด .. หากผลเป็นพบ "ติดเชื้อ" จะถูกตามมาส่งตัวไปตรวจ แบบ RT-PCR ซ้ำ ได้รับบริการยาฟ้าทะลายโจร หรือ Favipiravir และพาเข้าระบบ Home Isolation (ของ สปสช.) ในวันที่ตรวจพบ เพื่อดูแลรักษาต่อเนื่อง
- ภาพรวมบรรดาอาสา ของทีม "ชมรมแพทย์ชนบท ที่ลุยทั้ง 3 รอบ ตรวจ ATK รวม 192,905 คน พบผู้ติดเชื้อ 22,451 คน
- ช่วย"ตัดตอน" การแพร่ระบาดในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้มาก / ช่วยลดภาระเตียงล้นของโรงพยาบาลใน กทม.ลงได้ เพราะการจ่ายยา Favipiravir ให้กับผู้ติดเชื้อ ช่วยลดโอกาสที่เขาจะป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล
- การปฎิบัติการครั้งนี้ ยังพลิกโฉม ทำให้เกิดความร่วมมือจากหลายใน กทม.ฝ่ายหันมาช่วยทีมแพทย์ชนบทมากขึ้น เป็นระบบที่ชัดเจนขึ้น ทั้งสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) / กรุงเทพมหานคร/ กระทรวงสาธารณสุข/ ทีมอาสาภาคประชาชน/ ทีมโควิดชุมชน (Com-Covid) / เครือข่ายแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว และ IHRI รวมถึงอีกหลายองค์กร
....เป็นความร่วมมือ..ร่วมแรง..ร่วมใจ..ภายใต้เงื่อนเวลาที่เร่งรัด และทุกคนมีภารกิจประจำหนักอึ้งสาหัสที่ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว...
นี่แหละเรื่องตลกร้าย..!! "หมอสุภัทร" จะยกพวกทีม "แพทย์ชนบท" มาเหนื่อยวุ่นวาย.. ตรวจโควิด ในกรุงเทพฯ ทำไม ...? ที่ทุ่มเททำมาทั้งหมด...เพื่อใครกันนะ..
ถ้า..หมอสุภัทร ไม่ทำ.. ทีมแพทย์ชนบท ไม่เริ่มต้นรวมพลังมาช่วยในกรุงเทพฯ .. ไม่ไปสาละวนหา ATK มาช่วยตรวจ/ โควิดเดลต้า สายพันธุ์ดุร้าย กระจายไวที่แพร่ระบาดใน กรุงเทพฯ "สูงเป็นจังหวัดอันดับหนึ่ง" ในไทยขณะนั้น...จะเป็นยังไงกันต่อหนอ...
ภาพที่ถ่ายลงโพสต์นี้..เป็นส่วนหนึ่ง ที่เราถ่ายเอง ในช่วงลงพื้นที่ทำข่าว..เกาะติดการแพร่ระบาดโควิด ใน กทม. ที่มีทีม แพทย์ชนบท นำทีม กระจายไปตรวจเชิงรุก ในพื้นที่ต่างๆ ทั้ง 50 เขต ของ กทม.
บันทึกจากสนามข่าวโพสต์นี้ แบบย้อนความทรงจำ ท่ามกลาง ประเด็นร้อนวันนี้ ที่หมอสุภัทร ประกาศว่า ..ประเด็นการจัดซื้อ ATK โควิด ปฎิบัติการ “แพทย์ชนบทบุกกรุง” ปี 2564 กลายเป็นประเด็นหลักที่ทำให้ทำให้ถูกสอบและชี้ผิดวินัย มีมติให้หมอสุภัทร “ถูกออกจากราชการ” สิ้นสุดการทำงานในเดือนกันยายน 2568 นี้
หมอสุภัทร ยืนยันว่า ไม่ได้ทำผิดระเบียบ ไม่ได้ทุจริต แต่เป็นความไม่ลงรอยระหว่างชมรมแพทย์ชนบท ที่หมอสุภัทรเป็นประธาน กับ ปลัดกระทรวงฯ สธ.
..มาถึงบรรทัดนี้..ชวนทุกท่านขบคิด และร่วมแชร์เรื่องราว ไปด้วยกัน..
บันทึกจากสนามข่าว
Cr: ภัทราพร ตั๊นงาม : ผู้สื่อข่าว ไทยพีบีเอส