ผบ.ทหารกัมพูชา ฟ้องผู้ช่วยทูตทหารนานาชาติ กล่าวหาทหารไทย ลักพาตัว 20 ทหารเขมร



ผบ.ทหารกัมพูชา ฟ้องผู้ช่วยทูตทหารนานาชาติ กล่าวหาทหารไทย ลักพาตัว 20 ทหารเขมร

โดย chutikan_o


30 ก.ค. 2568516 views

ไปกันใหญ่! ผบ.ทหารเขมร ฟ้องผู้ช่วยทูตทหารนานาชาติ กล่าวหาทหารไทย ลักพาตัว 20 ทหารเขมร จะเข้าไปจับมือหลังมีข้อตกลงหยุดยิง จู่ๆ โดนจับไปเลย


วันที่ 30 ก.ค. 2568 ระหว่างที่ผู้ช่วยทูตทหารหลายประเทศ ลงพื้นที่ชายแดน ตามคำเชิญของทางการกัมพูชา ผู้บัญชาการทหารกัมพูชา ได้แจ้งต่อผู้ช่วยทูตทหารและนักการทูตต่างประเทศจำนวน 13 ราย ว่า กองทัพไทยได้ควบคุมตัวทหารกัมพูชาจำนวน 20 นายหลังจากประกาศข้อตกลงหยุดยิง


ผบ.ของฝ่ายกัมพูชา อ้างว่า ทหารกัมพูชาได้เข้าไปหาทหารไทยด้วยเจตนาดีเพื่อจับมือ แต่ขณะเดินกลับ ทหารไทยกลับหันปืนมาข่มขู่ และควบคุมตัวทหารกัมพูชาไป


สำหรับทูตและผู้ช่วยทูตทหารที่กัมพูชาพาลงพื้นที่ไปมีทั้งหมด 13 ประเทศ ประกอบด้วยสหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น รัสเซีย เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ลาว เวียดนาม และเมียนมา


สื่อของกัมพูชารายงานว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพื่อตรวจสอบความเสียหายจากการโจมตีของไทย ที่สร้างความเสียหายให้กับอนุสาวรีย์ ตลาด และถนนหนทางอื่นๆ ซึ่งในการนี้ ผู้บัญชาการทหารของกัมพูชาได้กล่าวหาไทยกับคณะทูตว่ากองทัพไทยที่เล่นตุกติกกับทหารกัมพูชาเมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2568


พลตรีจันทน์ โสภักตรา ผู้บัญชาการกองกำลังประจำพื้นที่ปราสาทพระวิหาร บอกกับคณะทูตว่า วันนี้เขาพาคณะทูตและทูตทหารจากต่างประเทศทุกคนลงพื้นที่แห่งนี้ เพื่อดูสิ่งที่เกิดขึ้นจากการสู้รบกับไทยในช่วง 5 วันที่ผ่านมา


เขากล่าวว่าตั้งแต่วันที่ 24-28 ก.ค.ที่ผ่านมา ทหารของกัมพูชาได้พยายามตั้งรับการโจมตีของฝ่ายไทยมาโดยตลอด กัมพูชามีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาอย่างสันติ แต่ฝ่ายไทยกลับไม่ยอม และเอาแต่โจมตีฝ่ายกัมพูชา


พลตรีจันทน์ ยืนยันกับคณะทูตว่า สิ่งที่เขาพูดไปนั้น เขาไม่ได้พูดในฐานะของพลเมืองกัมพูชา แต่พูดตามความจริงที่ทุกคนได้เห็น เขายืนยันว่า กองทัพกัมพูชาปฏิบัติตามคำสั่งของผู้นำอย่างเคร่งครัด และนับตั้งแต่มีข้อตกลงหยุดยิง ทหารของกัมพูชาก็ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด


พลตรีจันทน์อ้างว่า เมื่อเวลา 05.18 น. ของวันที่ 29 ก.ค. กองทัพกัมพูชาถูกกองทัพไทยโจมตี ซึ่งฝ่ายไทยมาพร้อมกับรถถังและทหารอีกประมาณ 13-15 นาย แถมยังใช้อาวุธหนักยิงใส่ทหารกัมพูชา 2 นัดด้วย ทั้งๆ ที่พวกเขาประจำการอยู่ในดินแดนของตัวเอง เขาพยายามที่จะขอการอนุญาตจากผู้บังคับบัญชาให้โจมตีตอบโต้ แต่ถูกผู้บังคับบัญชาสั่งห้าม และให้ปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด ดังนั้น กองกำลังของเขาในตอนนั้นจึงต้องหลบอยู่ในบังเกอร์เพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตี


เขาอ้างว่า จากนั้นกองกำลังไทยก็เข้ายึดบังเกอร์ของทหารกัมพูชา หลังจากถูกทหารไทยยึดบังเกอร์ได้ พวกเขาก็โบกมือและเรียกทหารกัมพูชากลับไป เมื่อทหารของกัมพูชาเห็นทหารไทยโบกมือและเรียกกลับ ทหารกัมพูชาก็เลยกลับไป


ตอนที่ไปพบกับทหารไทย มีเพียง 5 หรือ 6 คนจากฝ่ายกัมพูชาเท่านั้นที่เข้าไปกับฝ่ายทหารไทยโดยตรง


ตอนแรก ทหารไทยแสดงท่าทีที่ดีมากต่อทหารกัมพูชา พวกเขายิ้มและจับมืออย่างเป็นมิตร จากนั้นพวกเขาก็ได้คุยกันเรื่องการหยุดยิง หลังจากนั้นทหารไทยก็เรียกทหารกัมพูชาไปถ่ายรูปหมู่ ซึ่งพลตรีจันทน์ยืนยันว่า ภาพถ่ายดังกล่าวสามารถใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงการหยุดยิงได้


ประเด็นสำคัญที่พลตรีจันทน์ได้บอกกับคณะทูตต่างประเทศคือ ขณะที่ทหารกัมพูชากำลังถ่ายรูป ทหารไทยก็ย่องมาจากด้านหลัง และใช้ปืนจ่อทหารกัมพูชา ในระหว่างนั้น พวกเขาก็ได้จับกุมทหารกัมพูชาไป 20 นาย แต่มี 1 นายหลบหนีมาได้ และกลับมารายงานให้เขารับทราบ และในระหว่างการรายงาน นายทหารที่หนีมาได้บอกว่า อาจมีทหารอีก 2 นายถูกสังหารไปแล้วในตอนนั้น


พลตรีจันทน์ก็พูดถึงภาพรวมของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 5 วันที่ผ่านมา และขอบคุณประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นายกรัฐมนตรีอันวาร์อิบราฮิม ของมาเลเซีย และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ที่ช่วยเป็นตัวกลางในการทำข้อตกลงหยุดยิง


หลังจากนั้น นายทหารอีกรายหนึ่งก็ได้พูดเป็นภาษาอังกฤษยืนยันกับคณะทูตว่า กัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด คือ ไม่มีการยิง ไม่มีการเคลื่อนกำลังพลหรือการลาดตระเวน และแน่นอนคือ ไม่มีการเสริมกำลังพลหรือเคลื่อนกำลังพลบริเวณชายแดน แต่เมื่อวานนี้ เมื่อเวลา 8.00 น. มีทหารไทยเดินเข้ามาในดินแดนของกัมพูชาประมาณ 6-7 นาย


นายทหารคนดังกล่าว อ้างว่าทหารไทยเดินเข้ามานั่งและขอให้ทหารกัมพูชาออกไป ฝ่ายกัมพูชาก็ขอให้ทหารไทยออกไป แต่พวกเขาก็ไม่ยอมออกไป จนถึงกระทั่งเวลาประมาณ 18.00 น. พวกเขาจึงยอมกลับไป ซึ่งเขายืนยันว่าการกระทำนี้เป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง


และในช่วงท้าย นายทหารคนนี้ บอกกับคณะทูตว่า ทางกัมพูชากำลังดำเนินการเรื่องการปล่อยตัวทหารที่ถูกจับกุม และกำลังทำงานร่วมกับฝ่ายไทย ซึ่งฝ่ายไทยก็ได้ส่งภาพให้กับฝ่ายกัมพูชา ที่แสดงให้เห็นว่าทหารของกัมพูชายังมีสุขภาพดีทุกคน